การฝึกใช้ลมในการเป่าแคน
การใช้ลมในการเป่าแคน เป็นการบังคับทิศทางและน้ำหนักของลมที่เป่าเข้าหรือดูดออกจากรูเป่าของเต้าแคน
โดยใช้อวัยวะต่างๆ เช่น ริมฝีปาก ลิ้น และฟัน
ทั้งนี้เพื่อให้เสียงแคนมีจังหวะหนักหรือเบาตลอดจนมีเสียงสั้นหรือเสียงยาวได้ตามต้องการ อาจกล่าวได้ว่าการใช้ลมเป่าถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์ลายแคนให้มีความไพเราะ
วิธีการฝึกใช้ลมเป่าในการสร้างสรรค์เสียงแคนให้ไพเราะน่าฟังมีหลายลักษณะ ดังนี้
วิธีฝึกใช้ริมฝีปาก ลิ้น และฟัน ในการเป่าแคน
1. การทำให้เสียงแคนมีจังหวะหนัก-เบา มีวิธีการดังนี้
คือ ในขณะที่เป่าแคนให้ทำริมฝีปากห่อเข้าและบีบเข้าหากันให้เหลือเป็นรูเล็กๆ เพื่อใช้สำหรับเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกจากรูเป่าบนเต้าแคนพร้อมกับเป่าลมเข้าหรือดูดลมออก ถ้าเป่าออกอย่างแรงก็จเป็นจังหวะหนัก หรือถ้าใช้ลมเป่าออกเบา ๆ ก็จะเป็นจังหวะเบา
2. การฝึกเป่าแคนให้มีเสียงสั้นและเสียงยาว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเป่า ถ้าดูดลมออกนานก็จะเป็นลมยาว หรือถ้าเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกด้วยเวลาน้อยก็จะเป็นลมสั้น ซึ่งการเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกดังกล่าวอาจใช้ลมเป่าได้หลายลักษณะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำนองหรือลายแคนที่จะบรรเลง ลักษณะลมเป่า เช่น
2.1 การฝึกเป่าลมชั้นเดียว
2.2 การฝึกเป่าลมสองชั้น
3. รูปแบบการเป่า ขึ้นอยูกับลักษณะของทำนอง เช่น การเป่าแคนลายทางสั้น การเป่าทางยาว หรือการเป่าแบบอื่นๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งลักษณะเหล่านี้ผู้เขียนจะได้อธิบายพร้อมมีตัวอย่างการฝึกทั้งลักษณะการฝึกเป่าแคนเบ้ืองต้นและการฝึกเป่าแคนชั้นสูง ซึ่งรายละเอียดจะกล่าวในลำดับต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น