การฝึกเป่าลายเต้ยโขง(ลายใหญ่)
คำแนะนำวิธีฝึกการใช้ลม
1.ลายเต้ยโขงใช้โน้ตเดียวกันกับเพลงเต้ยโขงแต่การใช้ลมจะแตกต่างกันคือ
ในแต่ละห้องให้ใช้ช่วงลมเดียวแต่แบ่งลมเป่าออกเป็น 2 จังหวะย่อยเท่ากันเสมอทุกห้อง
เช่น ถ้า 1 ห้องเพลงมีตัวโน้ต 1 ตัว (
1 ระดับเสียง) ก็จะเป่าลมออกสองครั้ง ดังนี้เป็นต้น
2.การใช้ลม ให้ทำริมฝีปากห่อเข้าและให้จรดกับรูปากเป่าที่เต้าแคนให้แน่น ขณะเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกให้ผันลิ้นคล้ายกับจะเปล่งคำว่า
แลนแจน โดยออกเสียง คำว่า แลน และ แจน ให้สั้นที่สุด และเน้นการใช้ลมให้หนักที่โน้ตตัวสุดท้ายของห้อง(จังหวะตก)
แบบฝึกที่ 1
โน้ต
|
- - - -
|
- - - ล
|
- - - ซ
|
- ม
- ล
|
- - - ซ
|
- ดํ
- ล
|
- - - ซ
|
- ม -
ล
|
การใช้ลม
|
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
คำอธิบาย การใช้ลม
1.
อักษร ล หมายถึงผันลิ้นออกเสียงคำว่า แลน
(ออกเสียงให้เร็วและสั้น)
2.
อักษร จ หมายถึงผันลิ้นออกเสียงคำว่า
แจน (ออกเสียงให้สั้นและหนัก)
3.
สำเนียงของคำว่า แลน หรือ แจน จะมีระดับเสียงสูง –
กลาง – ต่ำ เปลี่ยนไปตามระดับเสียงของตัวโน้ต
แบบฝึกที่ 2
โน้ต
|
- - - -
|
- ซ
- ม
|
-
- - ร
|
- ด
- ม
|
-
- - ร
|
- ซ
- ม
|
-
- - ร
|
- ด
- ล
|
การใช้ลม
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
แบบฝึกที่ 3
โน้ต
|
- - - ด
|
- ร -
ม
|
- ร -
ด
|
- ซ -
ล
|
- - - ด
|
- ร
- ม
|
- ร -
ด
|
- ซ -
ล
|
การใช้ลม
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
ล จ
|
แบบฝึกที่ 4 ฝึกเป่าต่อเนื่องกันจนจบบท
- - - -
|
- - - ล
|
- - - ซ
|
- ม
- ล
|
- - - ซ
|
- ดํ
- ล
|
- - - ซ
|
- ม -
ล
|
- - - -
|
- ซ
- ม
|
-
- - ร
|
- ด
- ม
|
-
- - ร
|
- ซ
- ม
|
-
- - ร
|
- ด
- ล
|
- - - ด
|
- ร -
ม
|
- ร -
ด
|
- ซ -
ล
|
- - - ด
|
- ร
- ม
|
- ร -
ด
|
- ซ -
ล
|
คำอธิบาย
1. ฝึกเป่าต่อเนื่องกันทั้ง 3 แบบฝึกจนจบเพลง โดยแบ่งลมเป่าเป็น 2 จังหวะย่อยต่อหนึ่งห้องเพลง ตามวิธีปฏิบัติที่เรียนมาแล้ว
2. เมื่อฝึกได้ชำนาญแล้วให้ฝึกเป่าลายเต้ยพม่าและลายเต้ยธรรมดา โดยใช้ลมเป่า คำว่า “แลนแจน” เช่นเดียวกับการเป่าลายเต้ยโขง เมื่อฝึกให้ต่อเนื่องกันทั้ง 3 ลายแคน ก็จะเป็นการเป่าตามทำนองของหมอลำที่เรียกว่า
“ ลำเต้ย ”
รายละเอียดเพิ่มเติม