การเป่าแคน ลายภู่ตอมดอก(ลายใหญ่)
ััั
ลายภู่ตอมดอก ลายภู่ตอมดอกดั้งเดิมจริงๆแล้วเป็นลายทางสั้นที่เลียนแบบเสียงของสัตว์ในธรรมชาติ คือ แมลงภู่ ซึ่งคนอีสานจะเรียกว่า "แมงภู่" ตัวสีน้ำเงินแก่มองดูจนขียว เวลาบินตอมดอกไม้จะมีเสียงดังหึ่งๆ วนเวียนอยู่รอบๆดอกไม้แล้วค่อยๆบินวนเข้าวงในดอกไม้จนในที่สุดก็โฉบเอาเกสรดอกไม้ออกไป ลักษณะเสียงของแมลงภู่จะมีทำนองลีลาช้าๆ ก่อนแล้วจะเร็วกระชั้นเข้าในที่สุด หมอแคนผู้มีอารมณ์ศิลปินได้ดัดแปลงกิริยาอาการทางธรรมชาติของแมลงภู่นี้ออกมาเป็นทำนองของเสียงดนตรี โดยมุ่งเลียนแบบเสียงของหมู่แมงภู่ที่กำลังบินหึ่งๆ อยู่นอกก่อนช้าๆ แล้วค่อยกระชับเข้ามาตามลำดับ จนในที่สุดถึงจุดที่แมงภู่ขย้ำดอกไม้อย่าเมามัน เมื่อฟังลีลาของเสียงแคนจะได้ยินเป็นเสียงเล็กเสียงน้อย มีการเล่นเสียงเป็นกรณีพิเศษให้เหมือนกับเสียงแมลงภู่ที่กำลังตอมดอกไม้จริงๆ ความละเอียดบรรจงของเสียงแคนจะเหมือนคุณลักษณะของหมู่ภมรทั้งหลายที่พยายามดูดหรือนำเอาน้ำหวานจากเกสรไปโดยไม่ให้เกิดการชอกช้ำ ความสามารถของหมอแคนในช่วงนี้จึงเปรียบเหมือนความประณีตและสมบูรณ์ด้วยศิลปะในชั้นเชิงการเคล้าเกสรของหมู่ภมรที่ฉลาดนั่นเองในระยะหลังต่อมาได้มีผู้นำเอาลีลาอาการของหมู่ภมรนี้ไปดัดแปลงเป็นทำนองแคนขึ้นใหม่ โดยบรรเลงเป็นแนวทำนองแบบลายทางยาวที่มีเนื้อหาคล้ายทำนองเดิม สามารถนำไปบรรเลงได้ทั้งในทำนองลายใหญ่และลายน้อย สำหรับในเนื้อหานี้จะเสนอการเป่าในแนวของลายใหญ่ทางยาว ดังนี้
โน้ตทำนอง ลายภู่ตอมดอก (ลายใหญ่)
คำแนะนำวิธีฝึกการใช้ลม
1. การใช้ลม
ให้ทำริมฝีปากห่อเข้าและให้จรดกับรูปากเป่าที่เต้าแคนให้แน่น
ขณะเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกให้ผันลิ้นคล้ายกับจะเปล่งคำว่า แลนแดน ให้เป็นเสียงสั้นที่สุด
โดยเน้นการใช้ลมให้หนักที่โน้ตตัวสุดท้ายของห้อง
และสำเนียงของคำว่า แลน และ แดน จะมีระดับเสียงสูง – กลาง – ต่ำ เปลี่ยนไปตามระดับเสียงของตัวโน้ต
2. ขณะเป่าลมเข้าหรือดูดลมออก ให้กระดกปลายลิ้นขึ้นปิดเพดานเพื่อกันลมไว้แล้วปล่อยออกมาเป็นจังหวะตามจำนวนตัวโน้ตที่มีในแต่ละห้องเพลง
เช่น ถ้ามีตัวโน้ต 1 ตัว ก็จะเป่าเข้าหรือดูดออกเพียง 1 ครั้ง
หรือถ้ามีตัวโน้ต 4 ตัว ก็จะเป่าเข้าหรือดูดออก สี่ครั้ง
ดังนี้เป็นต้น
3.
วิธีใช้ลม ตามตัวอย่างนี้เรียกว่า การเป่าตัด หรือ เป่าตัดลม
คำอธิบายแบบฝึก
1. ให้ฝึกเป่าลมเข้าและดูดลมออกตามคำแนะนำในเบื้องต้น2. ขณะเป่าลมเข้าหรือดูดลมออกให้ผันลิ้นคล้ายกับจะเปล่งคำว่า แลน และ แดน สลับกันให้เป็นเสียงสั้นที่สุด
แบบฝึกที่ 1
เป่าเกริ่นทำนอง ด.......…ร………….ม…………
- ลฺ - ลฺ
|
ลฺ ลฺ - ม
|
-ม ซ ม
|
ร มซ ม
|
- ลฺ - -
|
ลฺ ลฺ - ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
แบบฝึกที่ 2
- ลฺ - ทฺ
|
ลฺ ลฺ - ม
|
-ม ซ ม
|
ร มซ ม
|
- ลฺ
- ทฺ
|
ลฺ ลฺ - ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
แบบฝึกที่ 3
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
แบบฝึกที่ 4
- ลฺ
- ร
|
ลฺ ด ลฺ ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ลฺ
- ร
|
ลฺ ด ลฺ ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
แบบฝึกที่ 5
- ล ซ ม
|
ซ ลซ ล
|
- ล ดํ รํ
|
ดํ ลซ ล
|
- ล ซ ม
|
ซ ลซ ล
|
- ล ดํ รํ
|
ดํ ลซ ล
|
แบบฝึกที่ 6
- ม ซ ด
|
ร มซ ม
|
- ม ซ ล
|
ซ มร ม
|
- ม ซ ด
|
ร มซ ม
|
- ม ซ ล
|
ซ มร ม
|
แบบฝึกที่ 7
- ลฺ ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ลฺ ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
แบบฝึกที่ 8
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
แบบฝึกที่ 9
- ลฺ
- ร
|
ลฺ ด ลฺ ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ลฺ
- ร
|
ลฺ ด ลฺ ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
แบบฝึกที่ 10 ให้ฝึกเป่าแบบฝึกที่ 1-9 ต่อเนื่องกันจนจบบท
- ล - ล
|
ล ล - ม
|
-ม ซ ม
|
ร มซ ม
|
- ล - -
|
ล ล - ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ล - ท
|
ล ล - ม
|
-ม ซ ม
|
ร มซ ม
|
- ล
- ท
|
ล ล - ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล
- ร
|
ล ด ล ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล
- ร
|
ล ด ล ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล ซ ม
|
ซ ลซ ล
|
- ล ดํ รํ
|
ดํ ลซ ล
|
- ล ซ ม
|
ซ ลซ ล
|
- ล ดํ รํ
|
ดํ ลซ ล
|
- ม ซ ด
|
ร มซ ม
|
- ม ซ ล
|
ซ มร ม
|
- ม ซ ด
|
ร มซ ม
|
- ม ซ ล
|
ซ มร ม
|
- ล ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ล ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ร ด ร
|
ม ร ด ร
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล ซ ม
|
ซร ม ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล
- ร
|
ล ด ล ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
- ล
- ร
|
ล ด ล ด
|
- ด ร ซ
|
ร มซ ม
|
ตัวอย่างการฝึกเป่าแคนลายภู่ตอมดอก
โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น